Tuesday, January 10, 2012

ประวัติ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์



 อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2498 ที่หมู่บ้านเล็กๆ ยากจน ที่ไม่มีไฟฟ้า ชื่อหมู่บ้านร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย แม่บอกว่าคลอดเวลาประมาณ 2 ทุ่ม หรือเช้าๆ ไม่แน่ใจเพราะกูจำไม่ได้ ผมเป็นลูกคนที่3 มีพ่อเป็นคนจีน พ่อผมชื่อ ฮั่วชิว แซ่โค้ว (เปลี่ยนเป็นนายไพศาล) แม่ผมเป็นคนอำเภอพะเยา (อดีตเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงราย) ชื่อ พรศรี อยู่สุข แม่ไม่ยอมเปลี่ยนนามสกุลจนบัดนี้
ผมเป็นเด็กค่อนข้างเกเร และดื้อ เคยถูกแม่ตบเลือดอาบคาโอ่งน้ำ เพราะเอามีดไล่แทงพี่ชาย แต่ผมชอบวาดรูปมากตั้งแต่จำความได้ ไม่สนใจเรื่องอื่นใดนอกจากเล่นสนุกเอามันส์ไว้ก่อน กับเขียนรูป เรียนหนังสือห่วยแตก ตก ป.3
พอโตหน่อย ตก ป.6 เพราะไม่ชอบเรียนวิชาอื่น สมุดเรียนมีแต่รูปวาดทั้งเล่ม อายุ 8 ขวบพ่อแม่ผมย้ายไปอยู่ในตัวเมืองเชียงราย ผมเข้าเรียนโรงเรียนดรุณศึกษา ผมดีใจมาก เพราะจะได้ไปดูเขาเขียนรูปที่โรงหนัง ผมไปทุกวัน
หลังเลิกเรียน ช่วยล้างพู่กัน ซื้อโอเลี้ยง จนได้วาดรูปตัวประกอบ เลยตั้งเป้าที่จะเรียนเพาะช่างและมหาวิทยาลัยศิลปากรให้ได้ ซึ่งสามารถเข้าเรียนได้ และเรียนได้อย่างดีเยี่ยม จนได้รับรางวัลเหรียญทอง จากการประกวดงานระดับชาติ ในสมัยที่ยังเรียนอยู่ชั้นปีที 4
หลังจากสำเร็จการศึกษาภาคศิลปไทยเป็นรุ่นแรก ก็ตั้งเป้าชีวิตว่าจะเป็นศิลปินสร้างงานศิลปะไปจนตาย โดยเริ่มชีวิตจากห้องเช่าเล็กๆ แต่เก็บเงินซื้อบ้านได้ภายใน 3 ปี
มีอยู่ครั้งนึงที่ได้รับทุนเดินทางไปดูงานต่างประเทศ (2524 – 2526) ทุนของสถาบันและองค์กรต่างๆ หลายครั้ง เมื่อครั้งที่ผมไปประเทศอังกฤษ ได้เห็นโบสถ์ที่วัดไทย วัดพุทธปทีป ในกรุงลอนดอน ซึ่งสร้างโดยรัฐบาลนายกฯ
เกียงศักดิ์ ก็รู้สึกมีความศรัทธา ผมจึงเสนอตัวเพื่อขอเขียนรูปถวายเป็นพุทธบูชา โดยไม่คิดค่าจ้างร่วมกับเพื่อนรุ่นน้องชื่อปัญญา วิจินธนสาร โดยใช้ชีวิตกว่า 4 ปีอยู่ที่นั่นท่ามกลางความยากลำบากต่างๆ นาๆ มีปัญหาสารพัด ผู้คนทะเลาะกัน พระไม่ลงรอยกับกรรมการ ไม่มีเงิน ไม่มีแรง
หลังจากอธิษฐานจากหลวงพ่อดำที่อยู่ที่นั่น ว่าเหนื่อยเหลือเกินแล้ว ท้อที่สุด แต่อยากทำให้เสร็จ ขอแลกด้วยชีวิตก็ยอม ปาฏิหารมีจริง อาจารย์ได้พบกับพลเอกเปรมที่มาเยี่ยมที่ลอนดอนพอดี การทำงานนั้นได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจาก พลเอกเปรม จนสำเร็จ แต่รู้สึกว่าหลวงพ่อดำจะประธานให้แต่โชค และไม่ต้องการชีวิตของอาจารย์ตอบแทน
กลับมาเริ่มต้นชีวิตที่เมืองไทย ด้วยเงินติดกระเป๋าเพียง 4000 บาท แต่ด้วยฝีมือการวาดภาพที่เข้าขั้นอัจฉริยะ สามารถทำเงินได้มหาศาลภายในเวลาอันสั้น ช่วงนี้เป็นช่วงที่อาจารย์เฉลิมชัยบอกว่าเกลียดตัวเองที่สุด เพราะเต็ม
ไปด้วยกิเลส ลุ่มหลง กามารมณ์ แต่หลังจากติดบ่วงทางโลกได้ 2-3 ปี อาจารย์เฉลิมชัย ก็เริ่มหันเข้าสู่ธรรมะ บวชและออกธุดงค์อยู่ตามป่าช้า และหลังจากสึกออกมาก็ไม่เคยทำความเลวใดอีกเลย
อาจารย์เฉลิมชัย ได้มีโอกาสถวายงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยร่วมในทีมวาดรูปประกอบหนังสือพระมหาชนก เลยมีความประทับใจ และรู้สึกว่าชีวิตนี้พร้อมจะถวาย เพื่อสร้างงานซักชิ้นไว้คู่พระบารมี
เมื่อครั้งกลับวัดร่องขุ่น ที่คนรุ่นพ่อร่วมกันสร้าง ที่ตอนนั้นมีสภาพทรุดโทรมเป็นที่สุด ก็เลยมีแรงดลใจว่าอยากสร้างวัดร่องขุ่น ด้วยศิลปะสมัยใหม่ เหมาะกับประเทศไทยภายใต้ร่มโพธิสมภารของในหลวง รัชกาลที่ 9 จึงลงมือ
ก่อสร้างตั้งแต่ 2540 โดยอุทิศทั้งชีวิตให้กับการสร้างงานชิ้นสุดท้ายของชีวิตชิ้นนี้
อาจารย์เฉลิมชัย ได้รับรางวัลและปริญญากิตติมศักดิ์มากมาย แต่ตนเองคิดว่ามันไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะการให้อันบริสุทธิ์ย่อมนำมา ซึ่งการรับอันมากมายไปจนตายและหลังความตายอย่างแน่นอน




No comments:

Post a Comment